ลาวคนเดียว เที่ยวปากเซในลาวหนึ่งวัน กับ 3 ตาดที่ต้องไปเยือน

ทริปที่จะรีวิวนี้ เป็นทริปสุดหินที่สุดที่เคยเที่ยวคนเดียวมา โดยจริงๆผมไม่ได้ไปแค่ ปากเซ ที่ลาวอย่างเดียวหรอก แต่ผมข้ามไปเวียดนามกลาง เมืองเว้-ฮอยอัน-ดานัง และต่อไปเวียดนามเหนือ ฮานอย-ซาปา ตัวคนเดียว! เอ้า โหดมั้ยล่ะ อ่านรีวิวเล้ย ซึ่งรีวิวนี้ผมจะเล่าเรื่องปากเซ รวมถึงตอนนั่งรถข้ามไปเว้ก่อน และหากใครจะตามรอย อย่ารอช้า ตามไปเร็วเพื่อความโดนเทไปด้วยกัน โธ่เอ้ย..

ตารางทริปคร่าวๆ

เวลาทั้งหมดคือ 9 วัน คือ กรุงเทพ-อุบล-ปากเซ-เว้-ฮอยอัน-ดานัง-ฮานอย-ซาปา-ฮานอย-กรุงเทพ ซึ่งรีวิวอันนี้จะครอบคลุมเฉพาะสีส้มตามตารางด้านล่างเนาะ (คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ได้นะ)

ubon-pakse-hue-hoian-danang-sapa-hanoi-bangkok

ubon-pakse-hue-route

เริ่มต้นเดินทางไปให้ถึงปากเซ จากอุบล

เห้ย ส่วนนี้จะบอกว่ามันสบายมาก ลองอ่านไปเรื่อยๆก่อน ผมนั้นนั่งเครื่องจากกรุงเทพ ถึงอุบลในเวลา 8.45น. การที่จะไปสถานี บขส. ของอุบลให้เร็วที่สุด คงไม่พ้นคำตอบคือแท็กซี่ ซึ่งเดินออกมาจากประตูสนามบิน คือขึ้นได้เลย แถมคิดราคาตามมิเตอร์ปกติเหมือนในกรุงเทพเลย ราคาถ้าจำไม่ผิด 50 หรือ 60 บาทเนี่ยแหละ ซึ่งผมแม่งโครตจะฉิวเฉียด คือถึงบขส. เวลา 9.25น. ต้องรีบบึ่งไปซื้อตั๋วและรีบขึ้นรถ อุบล-ปากเซ ให้ทันรอบ 9.30น!

รถโดยสาร บขส อุบล-ปากเซ มีอยู่สองรอบคือ 09.30น. และ 15.30น. ราคาต่อคนคือ 200 บาท

ubon-pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang-05

ubon-pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang-04

ubon-pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang-01

คนไม่เต็มรถ มีความสบายในระดับนึง พร้อมเปิดหนังไทยเรื่องไรไม่รู้แบบเสียงดังๆตุ้งแช่ไปด้วยตามสไตล์รถ บขส ไทยอ่ะ นึกภาพออกใช่ป่ะ ซักพักใหญ่รถเทียบท่าชายแดนไทย-ลาว ที่ช่องเม็ก การดำเนินการไม่มีอะไรมากที่ ตม. ไทย จากนั้นเราต้องเดินลงทางใต้ดินเพื่อข้ามไปฝั่งลาว ที่นี้ล่ะเราอยู่เขตลาวแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือเราต้องหาตึกที่มีป้าย Visa on Arrival นี้ เดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อทำเรื่องปั้ม ทำเรื่องเข้าลาว

ubon-pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang-03

ubon-pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang-02

ubon-pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang-06

คือผมก็ทำการบ้านมาก่อนจากการอ่านในเนต เห้ย มันต้องมีการจ่ายเงินว่ะ แต่แค่ 20 บาทเอง .. สรุป เจ้าหน้าที่ผู้หญิงที่เค้าเตอร์เรียกชื่อผม ยื่นพาสปอร์ตพร้อมกล่าว

จนท : หนึ่งร้อยบาท
ผม : โหย หนึ่งร้อยบาทเลยหรอครับ เท่าที่รู้มันยี่สิบบาทเอง  //เหมือนจำได้ลางๆว่า ยี่สิบหรือสามสิบเนี่ย
จนท :หนึ่งร้อยบาทททท
ผม : ยี่สิบนะครับ อ่านมาจากเนตจ่ายแค่ยี่สิบ // ยื่นแบงค์ยี่สิบพร้อมสบตาไปที่คนที่นั่งรถบัสด้วยกันมาพร้อมคิดในใจ — นั่นมึง ดอกแรกมาแล้ว
จนท : ไม่ได้ ต้องหนึ่งร้อยบาท .. วันนี้วันหยุด
ผม : หื้มมม… //คิดในใจ ยอมมมมมมมม จ่ายก็จ่ายฟ่ะ สรุปทุกคนโดนหนึ่งร้อยบาทจ่ะ

จากนั้นผมก็จ่ายด้วยความแบบ ฮัลโหลว เมืองลาวหนึ่งร้อยบาท เอาน่า ไม่เป็นไร จากตรงนี้รถบัส บขส ที่เรานั่งมาก็จะมาจอดรอเราอยู่หน้าตึกนี่และ ไม่ต้องกลัวหลง เค้าไม่ไปไหนจนกว่าคนจะขึ้นรถครบตามเดิม ระหว่างนี้หากใครต้องการโทรศัพท์ หรือใช้เนต หาซื้อซิมจากที่นี่ได้เลย แนะนำว่าหาแม่ค้าที่เค้าสามารถใส่ซิมให้เราพร้อมเปิดใช้งานให้เราได้เลย เราจะได้ไม่ต้องมาทำเองครับ

ubon-pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang-07

เมื่อขึ้นรถ บขส. ต่อมาปากเซ เค้าจะมาปล่อยเราลงที่สถานีขนส่ง กม. 7 (มันคือห่างจากตัวเมืองกลางปากเซ 7 กิโลเมตร) ซึ่งตรงนี้คือมีทางเลือกเดียวในการเข้าเมือง คือต่อสองแถวที่มารุมเราตอนลงจากรถ บขส เนี่ยแหละ ราคา 80 บาท จ่ายเงินไทยได้ เหรียญบาทไม่รับด้วย เค้าจะส่งเราตรงถึงหน้าโรงแรมเลย จากตรงนี้เราก็จะถึงตัวเมืองปากเซ ประมาณบ่ายโมงกว่าครับ

เริ่มเที่ยวปากเซ

เอาเข้าจริง เรามีเวลาแค่ครึ่งวันในการเที่ยวปากเซ ดังนั้นผมจึงตัดสินเช่ามอไซค์ขับเนี่ยแหละ ง่ายสุด เพื่อขับไปน้ำตก 3 ที่ คือ ตาดผาส้วม ตาดฟาน และตาดเยื้อง ตามลำดับ ระยะทางการขับไปกลับทั้งหมด 108.5 กิโลเมตร ตามข้างล่างนี้ ซึ่งที่ลาวจะขับรถชิดขวา ผมว่าขับไม่ยาก เพราะรถมีไม่เยอะเหมือนกรุงเทพ แต่อาจจะอันตรายหน่อยในเรื่องของถนนที่ไม่ค่อยดี และรถบรรทุกที่มีอยู่บ้าง แต่เอาน่า ถ้ามาแล้วก็ขี่เถอะ คุ้มนะ แต่ถ้าขี่ไม่เป็นก็ต้องซื้อทัวร์แล้วล่ะ อันนี้ไม่รู้ ฮ่าๆ

pakse-tadphasuam-tadfane-tadgneuang

ตาดผาส้วม

เมื่อถึงตาดผาส้วม แนะนำให้เดินมาทางด้านขวาก่อน เราจะเจอเหมือนทางเดินยาวมีไม้ไผ่ปลูกรอบทาง เห้ย.. มีมีความเป็นฟีลลิ่งญี่ปุ่นว่ะ ถึงแม้มันจะทางเดินสั้น บวกกับอากาศร้อนไม่เหมือนญี่ปุ่นก็เถอะ แต่สวยใช้ได้อยู่นะ ถ่ายรูปดี หากเดินต่อไปอีกจะมีเหมือนเป็นหมู่บ้านคนที่นี่เล็กๆอยู่ด้วย ซึบซับบรรยากาศได้

pakse-tadphasuam-04

pakse-tadphasuam-07

pakse-tadphasuam-01

จากนั้นเดินกลับมาทางเข้าเดิม แล้วเดินไปทางน้ำตก สิ่งแรกที่เห็นคือสะพานซึ่งสามารถมองเห็นสะพานที่สานด้วยไม้อะไรซักอย่าง ผมไม่แน่ใจ แต่คือดูดีอ่ะ แล้วแข็งแรงมากด้วยนะครับ พร้อมเดินไปอีกก็จะเจอตาดผาส้วมแล้ว ตรงด้านบนน้ำตกอีกฟาก สามารถเดินอ้อมเพื่อไปเล่นน้ำนิดหน่อยได้นะ เห็นมีคนเล่นอยู่ แต่ถ้าเล่นจริงจังกระโดดลงว่ายน้ำ ก็ไม่น่าจะได้นะครับ ฮ่าๆ ความรู้สึกโดยรวมสำหรับการมาน้ำตกที่แรก ค่อนข้างโอเคและประทับใจ ถ้ามีโอกาสผ่าน มาเถอะคร้าบบ

pakse-tadphasuam-05pakse-tadphasuam-02pakse-tadphasuam-03pakse-tadphasuam-06

ตาดฟาน

น้ำตกตาดฟานที่นี่ต้องเข้าไปในรีสอร์ทเพื่อดูน้ำตกซึ่งมันเห็นแบบไกลๆ ลักษณะน้ำตกจะเป็นแฝดเทลงไปในเหวลึก จุดชมวิวจะมีอยู่พื้นที่อยู่นิดเดียว เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทที่นี่ครับ สำหรับน้ำตกนี้ .. ผมเฉยๆนะ อยู่ได้แปปเดียวเองครับ มันไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่อ่ะ

pakse-tadfane-01

pakse-tadfane-02

ตาดเยื้อง

ที่นี่เป็นน้ำตกสุดท้ายที่ได้มาเยือน เนื่องจากผมมีเวลาเที่ยวจริงๆในปากเซ แค่ครึ่งวันเอง แล้วก็เกือบ 5 โมงแล้ว โชคดีที่ตาดเยื้องไม่ไกลจากตาดฟานมาก แปปเดียวก็ถึง ในบรรดาน้ำตกทั้งหมดที่ไป ผมว่าที่นี่แหละ แม่งสวยสุดและ มีความเสียวนิดหน่อยในการลงไปดูน้ำตกเพราะมันชันมาก มีความละอองน้ำสาดใส่เล็กๆ และน้ำตกอลังการ อ้อ หลังจากชมน้ำตกเสร็จแล้ว ต้อนขึ้นมาเนี่ยแหละ ทำเอาหอบ เพราะเหนื่อยเว่ออออออออออ

pakse-tadgneuang-04

pakse-tadgneuang-02

pakse-tadgneuang-01

pakse-tadgneuang-03

pakse-tadgneuang-05

หลังจากเสร็จ ปาไปหกโมงครึ่ง ขับมอไซค์กลับถึงโรงแรมทุ่มครึ่ง หากใครแพลนเวลา แพลนให้ดีๆ อย่างผมขับมอไซค์กลับตอนกลางคืน ถนนนี่แทบไม่มีไฟเลยนะครับ นี่ขับกลับมาถึงโรงแรมได้นี่ถือเป็นบุญมากแล้ว กลับมาต้องรีบนอนเพราะอะไร เพราะจองตั๋วรถบัสไว้ ว่าจะข้ามจากปากเซ ไปเว้ ที่เวียดนามน่ะสิ จากที่รู้นี่ต้องนั่งรถ 10 ชั่วโมงนะเฟ้ย แล้วมาดูว่าจะเป็นยังไง โถวววว

จุดพีคของทริป จากปากเซไปเวียดนาม

ความพีคของการข้ามจากปากเซ มาเว้ คือที่สุดของความโหดในการเที่ยวทั้งชีวิตนี้ คือตอนวางแพลนนี่รู้มาล่วงหน้าแล้วว่ามันโหด ผมก็พยายามหาในเนตเอาที่แบบ เราต้องสบาย แพงหน่อยก็จ่าย เจอคำว่า รถ A/C Seat VIP จากเอเจ้นนึงในปากเซ.. และเห็นในรูป แม่งเอ้ยยยย น่าจะสบาย วันแรกที่มาถึงปากเซก็จองเลยจ่ะ มีเอเจ้นอยู่ข้างโรงแรมพอดี ชื่อ Pakse Travel ติ่งอะไรซักอย่าง

ราคา 220,000 กีบ ไม่มีเงินกีบอีก จ่ายไปแบ้งพัน ทอนมาไม่กี่กีบ เอ่อ สิริราคารวมนี่เกือบหนึ่งพันบาทเลยนะแจ๊ะ

ความช็อคครั้งที่ 1

เอเจ้นนัดเรา 6.15น. ผมก็มาตั้งแต่ 6.00น. เอ้า.. ก็มาก่อนเวลาเนอะ เผื่อตกรถ กันไว้ก่อน จากนั้นก็มีผู้ชายชาวญี่ปุ่นมารอด้วยเช่นกัน เค้าบอกว่าเค้าจะไปดานัง รอไปจนถึง 6.30น. เอเจ้นบอก รอไปเลยจ้าา ถึง 7.30น. เดี๋ยวมีคนมารับไปขึ้นรถ ไปหาไรกินก่อนนะ.. โอเค๊ เราไปหาเฝอกินแถวนั้นก่อนก็ได้ รองท้อง กินเสร็จเดินกลับไปหาเอเจ้น นางบอกว่า ..

รถเนี่ย เดินรถโดยคนเวียดนาม ออกไม่ค่อยตรงเวลา แล้วแต่อารมณ์ .. // อ้าว ความกังวลเริ่มมา..

พอ 7.30น. เอเจ้นบอก เดี๋ยวไปส่งผมที่ บขส สายเหนือ พอมาถึง ปล่อยผมในร้านอาหารไรซักอย่างบอกให้รอตรงนี้ 8.00น. โมงรถจะมา จากนั้นก็ทิ้งผมกับคนญี่ปุ่นไว้สองคน 8.00 แล้ว ก็ไร้วี่แวว .. รอแล้วรออีก ถามคนในร้านอาหาร ก็บอกเดี๋ยวมาๆ จนกระทั้ง 9.30 รถมาแม่งถึงกับช็อค พร้อมคนในร้านอาหารบอก..

ไปเถอะคันเนียะ ขึ้นไปเลย ไปถึงเหมือนกัน .. วันนี้ไม่มีรถ // หื้มมมมม (คิดในใจ) ใช่หรอวะ

ubon-pakse-vietnam-01

ความช็อคครั้งที่ 2

สภาพรถคือเก่ามากแบบ ไม่มีแอร์ คือแม่งเป็นรถขนสินค้าข้ามไปเวียดนาม จากภาพที่ฝันมาคือรถบัสแอร์ ที่นั่งสบาย ถ้ายังเป็นแบบรถ บขส ปอ.1 ของไทยก็โอเคแล้ว ยอมรับได้ แต่นี่คือไรวะ .. เออ แม่งก็ต้องไปไง ไปก็ไป สรุปมีผมกับคนญี่ปุ่น กับคนเวียดนาม 6 คนที่เป็นคนของรถนี้แหละ

ubon-pakse-vietnam-04

ubon-pakse-vietnam-05

ซักบ่ายสอง คนเวียดนามผู้หญิงคนเดียวในรถ น่าจะเป็นเหมือนเจ้าแม่ คุมรถบัสคันนี้ ยื่นก้อนไรซักอย่างมาให้ผมกับคนญี่ปุ่นกิน … ก็กินจ้าาาา ด้วยความหิว ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เฝอเมื่อเช้า รสชาติเหมือนกุนเชียง ผมคิดว่า ขออย่าให้เป็นเนื้อแปลกประหลาดเลย ฮือ

ความเกือบช็อคเมื่อข้ามแดนลาว-เวียดนาม

16.40น. ผมเริ่มระแวงมาก ข้ามแดนคือแม่ง จะปล่อยผมกับคนญี่ปุ่นไว้ตรงนั้นมั้ย คือกลัวมาก สรุปโชคดีแม่งยังไม่ทิ้งผมไว้ตรงนั้น โล่งอก

ubon-pakse-vietnam-06

ความช็อคครั้งที่ 3

รถจอดนิ่งที่ Dongha อยู่ 20 นาที สรุป เห้ย! แม่งเทผมกับคนญี่ปุ่นไว้ตรงนั้น แล้วเจ้าแม่ที่ให้เนื้อผมกินนั่นแหละ เดินมาส่งให้เราขึ้นรถตู้ท้องถิ่นที่โดยสารไปเว้แทน คนแน่นเอียด คือตอนนั้นคิด เอาไรก็เอาเหอะ ขอไปให้ถึงที่ พอใจแล้ว

ลักษณะของรถตู้คือเป็นรถเล็กๆ แล้วอัดมาก คันนึงน่าจะ 15-20 คนได้ นึกสภาพไหล่ซ้อนไหล่ นั่งสลับฟันอย่างงั้นอะ คิดว่าไง

ubon-pakse-vietnam-02

ความช็อคครั้งที่ 4

อยู่รถตู้ก็จอด คนญี่ปุ่นโดนรถตู้เท.. ฝากไว้กับคนเวียดนามคนนึงข้างทาง แล้วบอกคนญี่ปุ่นว่า คนเนี้ยะจะพาไปดานัง… อ้าวเห้ย คนญี่ปุ่นนั่นซวยแล้วมึง ตัวผมยังอยู่ในรถตู้กับคนเวียดนาม ก่อนประตูรถตู้ปิด เค้าเดินมาจับมือผม บอกว่ายินดีที่ได้รู้จัก และผมตอบกลับไปว่า โชคดีนะ ไม่รู้ป่านนี้คนญี่ปุ่นคนนั้นเป็นยังไงบ้าง

ความช็อคอันที่ 5

นั่งมาเรื่อยๆ คิดว่าตัวเองจะรอดตาย สรุปรถตู้เทผมครับบบบบ .. แล้วฝากฝังผมไว้กับคนขี่มอไซคนนึง ให้ไปส่งโรงแรม แล้วคืออะไร ขอเงินผม 50,000 ดอง สรุปก็ต้องยอมไง สุดท้ายถึงโรงแรมตอน 20.30น. เออแม่มถึงซักที ปลอดภัยชีวิตแค่นี้ก็ดีแล้ว

ubon-pakse-vietnam-03

เหนื่อย คือเหนื่อยมากกก ความกลัวก็มี แต่คิดว่ายังไงก็ถึงแหละ แต่เส้นทางข้ามแดนนี้โหดแน่นอน แล้วก็เจอกับตัวเองจริงๆ ฮือ T T

สรุป 6 โมงเช้า ถึง สองทุ่มครึ่ง ปากเซ~เว้ 14 ชั่วโมง ถึงเว้ซักที

ถึงโรงแรม แล้วก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้โรงแรมฟัง เค้าบอกว่า มึงโดนหลอกแล้วจ้า มันเป็นอย่างนี้แหละ เอ่อ .. นั่นแหละ

คำเตือนหากคิดจะข้ามปากเซ-เว้

  1. คือมันอาจจะเป็นโชคร้ายของผมหรือเปล่า ที่โดนอย่างนี้ มันอาจจะไม่มีรถจริงๆก็ได้ แต่ยังไงก็เตรียมใจเรื่องพวกนี้ไว้ด้วย หากโดนหลอก
  2. ถ้าคุณเป็นผู้หญิง แล้วมาคนเดียว อย่าเลย อันตรายจริง
  3. ซื้อของกินตุนไว้เลยจากปากเซ อาจจะขนมปัง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันกินง่ายๆ อย่างของผม ไม่ได้กินอะไรเลยตลอด 14 ชั่วโมงนั้น ดีที่ยังซื้อน้ำขวดใหญ่ 2 ลิตรไว้ ประทังชีวิตด้วยน้ำเปล่าขวดนั้น
  4. ทำประกันเดินทางไว้ก็ดี อุ่นใจขึ้นมานิด

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่อุบล ไปปากเซ แล้วข้ามไปเวียดนาม ซึ่งมันก็เท่ากับ 2 วันเอง ที่เหลือในเวียดนามจะเป็นยังไง อะ อ่านนนนนน (แต่ยังเขียนไม่เสร็จเลยครับ) ฮ่าๆ อ่าน #ไต้หวันคนเดียว ตามข้างล่างก่อนละกันครับ ฮี่ฮี่

แหล่งที่มา : https://www.hashcorner.com/travel/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%8B-%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7/